คู่ชีวิต

Showing 1–15 of 19 results

ถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่น

ถุงยางเป็นวัสดุคุมกำเนิดที่นิยมใช้มากที่สุด และช่วยให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือการเลือกขนาดที่เหมาะสมและการเก็บรักษาที่ถูกต้อง


การเลือกซื้อถุงยางอนามัย

การเลือกซื้อถุงยางอนามัย 

1. อ่านฉลากก่อนซื้อ : อ่านฉลากก่อนซื้อ การอ่านฉลากถุงยางอนามัยก่อนซื้อทุกครั้ง จะทำให้ทราบว่าถุงยางอนามัยดังกล่าว ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้วหรือไม่ ถุงยางอนามัยหมดอายุการใช้งานหรือยัง มีความเหมาะสมตรงกับความต้องการของผู้ใช้หรือไม่

2. ประเภทของถุงยางอนามัย : ถุงยางอนามัยแบ่งประเภทตามขนาดความกว้างของถุงยางอนามัย โดยการวัดขนาดให้เหมาะสมกับถุงยางอนามัย ให้วัดรอบวงของอวัยวะเพศขณะแข็งตัวเต็มที่เป็นหน่วยมิลลิเมตร และนำไปหารด้วย 2 จะได้เป็นขนาดของถุงยางอนามัยที่เหมาะสม

- ขนาดถุงยาง(มม.) รองรับขนาดความใหญ่ของรอบวง (ซม.) ขนาดความใหญ่ของรอบวง (นิ้ว)

  • ถุงยางอนามัยขนาด 49 มม. เท่ากับเส้นรอบวงองคชาติ 11-12 ซม.
  • ถุงยางอนามัยขาด 52 มม. เท่ากับเส้นรอบวงองคชาติ 12-13ซม.
  • ถุงยางอนามัยขนาด 54 มม. เท่ากับเส้นรอบวงองคชาติ 13-14 ซม.
  • ถุงยางอนามัยขนาด 56 มม. เท่ากับเส้นรอบวงองคชาติ 14-15ซม.

3. ชนิดของถุงยางอนามัย : ถุงยางอนามัยแบ่งชนิดตามลักษณะผิว เป็น 2 ชนิด คือ ชนิดผิวเรียบ และชนิดผิวไม่เรียบ การเลือกซื้อควรสังเกตดูว่า เป็นชนิดที่ตรงกับความต้องการของตนเองหรือไม่ นอกจากนี้ ควรสังเกตข้อความอื่น ๆ เช่น ชื่อผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า รุ่นที่ผลิต เดือนปีที่ผลิต มีสารหล่อลื่นหรือสารฆ่าเชื้ออสุจิ มีสารแต่งกลิ่นหรือไม่

4. การบรรจุ : ควรตรวจดูลักษณะของซองย่อยหรือกล่องบรรจุว่า ชำรุดหรือฉีกขาดหรือไม่ หากพบการชำรุดหรือ ฉีกขาดไม่ควรเลือกซื้อ โดยให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าถุงยางอนามัยที่บรรจุอยู่ภายในอาจฉีกขาดหรือเสื่อมคุณภาพแล้ว

5. การจัดวางสินค้า : ซื้อจากร้านค้าที่มีการเก็บถุงยางอนามัยพ้นจากแสงแดดหรือความร้อน

ข้อควรระวังในการใช้ถุงยางอนามัย

ข้อควรระวังในการใช้ถุงยางอนามัย

1. ระยะเวลาในการใช้งาน : การใช้ 1 ชิ้นจะต้องใช้ไม่เกิน 30 นาที เพราะความสมบูรณ์ของตัวถุงยางอนามัยอาจจะเสื่อมสภาพลง และต้องใช้แล้วทิ้งเท่านั้น ห้ามนำกลับมาใช้ใหม่โดยเด็ดขาด

2. ระวังสารหล่อลื่น : การผลิตถุงยางอนามัยโดยปกติแล้วจะมีการเติมสารหล่อลื่น สารหล่อลื่นที่ใช้เป็นชนิด ที่มีน้ำหรือซิลิโคนเป็นตัวทำละลาย เช่น กลีเซอรีน เค-วาย การใช้สารหล่อลื่นบางชนิดอาจมีผลกับตัวถุงยางอนามัย จึงควรหลีกเลี่ยงสารหล่อลื่นที่เป็นน้ำมันพืช น้ำมันแร่เป็นตัวละลาย เนื่องจากสารเหล่านี้จะทำปฏิกิริยาจนเกิดความเสียหายต่อถุงยางอนามัยได้

3. ภายหลังการใช้ถุงยางอนามัยไม่ควรสัมผัสถุงยางโดยตรง เพราะอาจมีเชื้อโรคติดอยู่ที่ด้านนอกแล้ว

4. ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วควรนำไปเผา หรือทิ้งลงถังขยะในทันที

5. การเก็บรักษาให้พ้นจากความร้อน หรือแสงแดด และไม่ควรเก็บในที่ชื้น เช่น ในช่องเก็บของบนพาหนะเนื่องจากมีความร้อนสูง และไม่ควรเก็บในที่ถูกทับ หรือบีบรัด เช่น กระเป๋ากางเกง กระเป๋าเงิน เพราะอาจทำให้ถุงยางอนามัยเกิดการชำรุดได้

บทความล่าสุด

ยาอมแก้ไอ แก้เจ็บคอ

ยาอมที่มีจำหน่ายในร้านยา จะมีสรรพคุณทั้งแก้ไอและเจ็บคอได้ในเม็ดเดียวกัน แต่มีฤทธิ์เด่นที่ต่างกันไปตา

รูปแบบของอาหารเพื่อสุขภาพ

ปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ หรือ อาหารฟังก์ชั่น มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ตามกระแ

การดูแลรักษาแผลเป็น

แผลเป็น เป็นเรื่องธรรมชาติ เกิดขึ้นหลังจากที่ผิวหนังมีการฉีกขาด จะมีอาการรุนแรงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กั

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะสำหรับการวิเคราะห์และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะของผู้ใช้งาน

บันทึกการตั้งค่า