อุปกรณ์แพทย์

Showing 1–15 of 25 results

อุปกรณ์ทางการแพทย์

สิ่งของที่มีลักษณะคงทนถาวร มีอายุการใช้งานนานกว่า 1 ปี ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เช่น รถเข็นผู้ป่วย เตียงคนไข้ เครื่องเอกซเรย์

 

50 บาท150 บาท
This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
60 บาท600 บาท
This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
60 บาท
This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
-31%
Original price was: 175 บาท.Current price is: 120 บาท.
135 บาท
This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
140 บาท
This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
-50%
Original price was: 400 บาท.Current price is: 200 บาท.
-13%
Original price was: 265 บาท.Current price is: 230 บาท.
300 บาท
This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
-41%
Original price was: 850 บาท.Current price is: 500 บาท.

การเลือกซื้อเตียงผู้ป่วย

ประเภทของเตียงผู้ป่วย

เตียงผู้ป่วยมีความสามารถในการปรับความสูงต่ำ และความสามารถในการปรับหลังขึ้น หรือปรับเข่าขึ้นลง เพื่อให้ร่างกายผู้ป่วยมีความสบายขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ป่วย

คนที่ไม่สามารถขยับได้และใช้เวลาส่วนใหญ่ต่อวันอยู่กับเตียงผู้ป่วยมากควรต้องใช้เตียงผู้ป่วยที่สามารถปรับท่าทางได้หลากหลายและมีตัวเลือกที่สามารถป้องการแผลที่เกิดจากการกดทับได้

เตียงผู้ป่วยนั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่

  • เตียงมือหมุน,
  • เตียงไฟฟ้ามือหมุน 
  • เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า

1. เตียงผู้ป่วยแบบมือหมุน

เตียงประเภทนี้จะใช้มือปรับหมุนในการทำให้หลังและเข่าขึ้นหรือลง หรือความสูงต่ำของเตียงด้วย เตียงประเภทนี้ค่อยข้างประหยัดมากที่สุด เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่มีงบน้อย หรือผู้ป่วยที่ไม่จำเป็นต้องปรับท่าทางบ่อยมากนัก โดยปกติเตียงประเภทนี่ตัวปรับมือหมุนจะอยู่บริเวณท้ายเตียง ต้องการผู้ช่วยมาจากการปรับ

2. เตียงผู้ป่วยแบบมือหมุน-ไฟฟ้า

เตียงประเภทนี้อาศัยมอเตอร์ในการปรับสูงต่ำ ผู้ป่วยและคนดูแลสามารถปรับได้โดยการกดรีโมท หรือใช้มือหมุนได้เช่นกัน ขณะที่เราสามารถใช้รีโมทได้อีกด้วย ตัวเลือกเตียงไฟฟ้ามือหมุนนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการปรับเตียงไปยังท่าทางต่างๆด้วยตัวเอง ในขณะที่ผู้ดูแลสามารถปรับมือหมุนได้เช่นกัน แต่ราคาค่อนข้างสูง

3.เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า

เตียงประเภทนี้สามารถปรับความสูงและท่าทางต่างๆได้โดยใช้รีโมทคอนโทรล ไม่มีมือหมุนในตัว (เตียงส่วนใหญ่จะมีแบตเตอรี่สำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน) เตียงชนิดนี้ง่ายทั้งกับผู้ป่วยและผู้ดูแล

เลือกเตียงผู้ป่วยยังไงดี 

1.ดูระยะเวลาการใช้งานที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้งาน

ถ้าหากผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องใช้เตียงในระยะยาว เตียงไฟฟ้าอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะช่วยผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกต่อผู้ดูแลมาก

2.น้ำหนักผู้ป่วย

คุณลักษณะเฉพาะของเตียงส่วนใหญ่จะมีระบุการรองรับน้ำหนักของเตียงด้วย เมื่อคำนวณน้ำหนักของฟูก เตียง และผู้ป่วยแล้ว ต้องดูให้มั่นใจว่าสามารถรองรับน้ำหนักของผู้ป่วยได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ซึ่งส่วนใหญ่แล้วน้ำหนักการรองรับผู้ป่วยควรอยู่ที่อย่างน้อย 20-25 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักเตียง

 

3.ระยะเวลาที่ใช้เตียงในหนึ่งวัน

ถ้าผู้ป่วยอยู่บนเตียงนานกว่า 15 ชั่วโมงต่อหนึ่งวัน คุณบางทีอาจต้องการใช้เตียงไฟฟ้า เนื่องจากเตียงมือหมุนส่วนใหญ่เหมาะกับการใช้เตียงในระยะสั้น และมีความทนน้อยกว่าเตียงไฟฟ้า นอกจากนี้การเลือกเบาะก็มีความสำคัญด้วยเช่นกัน ยิ่งคุณใช้เวลากับเตียงนาน จะมีปัญหาเกี่ยวกับแผลกดทับ หากฟูกดีแล้วจะช่วยป้องกันการเกิดแผลกดทับได้มากเช่นกัน ทั้งนี้เตียงไฟฟ้าจะช่วยให้คุณเปลี่ยนท่าได้ง่ายขึ้น และจุดกดลงเตียง เพื่อลดการเป็นแผลกดทับได้เช่นกัน

4.การเคลื่อนย้าย

ถ้าต้องการให้ผู้ป่วยใช้งานได้ด้วยตัวเองจะต้องเลือกใช้เตียงไฟฟ้าเท่านั้น 

เคล็ดลับที่ไม่ลับสำหรับเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า

  • ก่อนซื้อเตียงไฟฟ้า ควรหาสถานที่วางเตียงที่เหมาะสม มีที่วางที่ว่างพอและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
  • ควรมีที่ว่างสำหรับการปรับในแต่ละท่าทางต่างๆ และควรมีที่ว่างสำหรับการเดินไปรอบๆเตียงเพื่อให้ง่ายแก่ผู้ดูแลที่จะเข้าไปหาผู้ป่วย
  • สถานที่วางเตียงไฟฟ้าควรอยู่ในพื้นที่มั่นคง ไม่เสี่ยงต่อการหล่น ตกบันได หรือหลุม
  • ควรล๊อคล้อทุกครั้ง มีเวลาเดียวที่ปลดล๊อคคือเวลาที่เคลื่อนย้ายเตียงวางเตียงในตำแหน่งที่สามารถได้ยินเสียงผู้ป่วยได้ชัดเจน และเข้าถึงได้ง่าย
  • มีไฟสว่างเพียงพอ

 

ข้อดีของการใช้เตียงผู้ป่วย

  1. เตียงผู้ป่วย ที่สามารถปรับท่าทางต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต จึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย สามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
  2.  สามารถปรับให้ผู้ป่วยลุกขึ้นมานั่งหรือทานข้าวได้ หากเราใช้เตียงนอนธรรมดา แน่นอนว่า การดูแลรักษาผู้ป่วยนั้นค่อนข้างจะยากลำบาเลยทีเดียว
  3. เตียงผู้ป่วยนั้นมีล้อสามารถที่จะเข็นผู้ป่วย หรือ เคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้สะดวก และเตียงผู้ป่วยสามารถทีจะปรับระดับสูงต่ำได้
  4. เตียงผู้ป่วยช่วยรักษาความเจ็บป่วย อาการบาดเจ็บต่างๆ นั้นจะดีกว่าการใช้เตียงแบบธรรมดาทั่วไป

 

เครื่องพ่นยา

   Nebulizer หรือเครื่องพ่นละอองยาไฟฟ้า

เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับรักษาโรคในระบบทางเดินหายใจอย่างโรคหอบหืดหรือโรคอื่น ๆ นอกจากช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ทางเดินหายใจและช่วยขับเสมหะ ยังมีคุณสมบัติเปลี่ยนยาน้ำให้กลายเป็นละอองฝอยเล็ก ๆ เพื่อให้ยาเข้าสู่ทางเดินหายใจโดยตรง ซึ่งอาจช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่ และใช้เวลาในการออกฤทธิ์เร็วกว่าการให้ยาด้วยวิธีอื่น ขณะที่ส่งผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย

ด้วยเหตุนี้ Nebulizer จึงเป็นเครื่องมือที่ผู้ป่วยนิยมใช้ อีกทั้งในปัจจุบัน อุปกรณ์นี้ยังถูกปรับโฉมให้มีขนาดเล็กและเบาลงจนสามารถพกพาไปใช้ตามสถานที่ต่าง ๆ ได้สะดวกมากขึ้น โดยเครื่องพ่นยาชนิดนี้จะใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่เพทย์มักแนะนำให้ใช้กับทารก เด็กเล็ก หรือผู้ป่วยที่ไม่อยู่ในภาวะที่สามารถกำหนดลมหายใจได้ด้วยตนเอง รวมถึงผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับยาพ่นในปริมาณมากด้วย

โรคหืดกับการรักษาด้วยเครื่องพ่นยา

ผู้ป่วยโรคหืดจะมีภาวะเยื่อบุผนังหลอดลมอักเสบ ทำให้ไวต่อสิ่งกระตุ้นหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ส่งผลให้หลอดลมหดเกร็งตัวและตีบแคบฉับพลัน และเกิดการผลิตสารคัดหลั่งข้นเหนียวอย่างเสมหะหรือน้ำมูกภายในหลอดลมมากขึ้น หากหลอดลมหดตัวหรือตีบตันจากการสะสมสารคัดหลั่งปริมาณมากก็จะทำให้อาการของโรคกำเริบ โดยผู้ป่วยอาจไอ หายใจมีเสียงหวีด หายใจลำบาก และเจ็บหน้าอก

วิธีการรักษาและควบคุมอาการหอบหืดนั้นทำได้โดยพ่นยาขยายหลอดลมอย่างยาซาลบูทามอล โดยใช้ Nebulizer หรือเครื่องพ่นยาทั่วไป รวมทั้งแพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ด้วย ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบยาพ่นหรือยาเม็ดสำหรับรับประทาน

ทั้งนี้ การใช้เครื่องพ่นยามีประโยชน์ต่อการรักษาหลายประการ เพราะนอกจากจะช่วยให้ความชุ่มชื้นต่อทางเดินหายใจและช่วยขับเสมหะได้ดี ผู้ป่วยยังสามารถผสมยาได้เองตามที่แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญแนะนำ เพื่อให้การพ่นยามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Nebulizer มีกี่แบบ 

แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ โดย 2 รูปแบบที่เป็นที่นิยม มีดังนี้

  1. Compressor Nebulizer เป็นเครื่องพ่นยาแบบอัดอากาศที่ทำให้ยาแตกตัวเป็นละอองฝอย นิยมมีติดไว้ที่บ้าน เพราะตัวเครื่องมักมีขนาดใหญ่ จึงไม่เหมาะแก่การพกพา
  2. Mesh Nebulizer เป็นเครื่องพ่นยาที่ใช้หลักการสั่นจนทำให้ยาแตกตัวเป็นละอองฝอยผ่านตะแกรงถี่ โดยส่วนใหญ่เครื่องจะทำงานโดยอาศัยแหล่งพลังงานจากภายนอกอย่างแบตเตอรี่ ข้อดีของเครื่องชนิดนี้ คือ ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก เสียงเบา และพกพาง่าย

 

ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้แนะนำ Nebulizer รูปแบบที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย และผู้ใช้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดหากตนเองหรือลูกน้อยป่วยเป็นโรคหืด โดยควรเลือกใช้เครื่องที่มีคุณภาพและมาตรฐานทางการแพทย์รองรับ โดยเฉพาะเครื่องพ่นยาที่ถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็ก เพราะอาจช่วยให้ผู้ป่วยใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในบ้านและพกพาเพื่อนำไปใช้ตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ด้วย

วิธีการใช้ Nebulizer อย่างถูกต้อง

  1. วางเครื่องพ่นยาให้ตั้งอย่างมั่นคงบนพื้นผิวที่เรียบ และไม่ให้อยู่ไกลจากเต้าเสียบจนเกินไป
  2. ตรวจสอบความสะอาดของอุปกรณ์ทุกชิ้น
  3. ล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดก่อนเตรียมยา
  4. ใส่ยาลงในเครื่องทำฝอยละอองตามปริมาณที่แพทย์กำหนด หากจำเป็นต้องผสมยาเอง ให้ใช้ภาชนะตวงที่สะอาดและมีคุณภาพเพื่อตวงยาให้พอดี
  5. ให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรงในท่าสบาย ๆ บนเก้าอี้ สวมหน้ากากให้พอดีกับใบหน้า และควรพ่นยาในท่านั่ง ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นเด็กเล็ก อาจให้เด็กนั่งลงบนตักของผู้ปกครองแทน
  6. หากรู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือกระวนกระวายใจ ให้หยุดสูดดมยาและนั่งพักประมาณ 5 นาที จากนั้นให้ลองสูดดมยาอีกครั้ง โดยพยายามหายใจอย่างช้า ๆ หากอาการดังกล่าวยังไม่ดีขึ้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อหาสาเหตุและทางแก้ไขต่อไป
  7. หากมียาติดอยู่ด้านข้างของเครื่องทำฝอยละออง ให้เขย่าตัวเครื่องเบา ๆ เพื่อช่วยให้ยาหลุดออก

วิธีดูแลเครื่องพ่นยา

  1. ผู้ใช้ควรล้างเครื่องพ่นยาหลังจากใช้งานทุกครั้ง และฆ่าเชื้อเครื่องพ่นยาทุก ๆ 3 วัน เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่น ๆ 
  2. การล้างอุปกรณ์ต่าง ๆ ถอดหน้ากากและเครื่องทำฝอยละอองออกจากตัวเครื่องอัดอากาศ แล้วล้างทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและน้ำยาล้างจานสูตรอ่อน ๆ จากนั้นจึงนำมาตากบนผ้าสะอาดและปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง โดยไม่จำเป็นต้องถอดท่อคอมเพรสเซอร์ออกมาล้างทำความสะอาดด้วย
  3. การฆ่าเชื้อ ถอดหน้ากากและเครื่องทำฝอยละอองออกจากตัวเครื่องอัดอากาศ แล้วล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่แพทย์แนะนำให้ใช้ หากไม่มีน้ำยาฆ่าเชื้อ ให้ล้างด้วยน้ำผสมกับน้ำส้มสายชูแทน โดยใช้น้ำส้มสายชู 1 ส่วนต่อน้ำอุ่น 3 ส่วน จากนั้นให้แช่น้ำยาฆ่าเชื้อทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือตามเวลาที่ระบุไว้บนฉลาก เมื่อถึงเวลาที่กำหนดแล้ว ให้นำมาล้างด้วยน้ำอุ่นอีกครั้งและตากไว้บนผ้าสะอาดแล้วปล่อยให้แห้ง
  4. ผู้ใช้ควรเปลี่ยนท่อคอมเพรสเซอร์ใหม่เป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคด้วย

   

 

 

บทความล่าสุด

อาการตกขาวจากช่องคลอดอักเสบ

ตกขาวหรือระดูขาว มีลักษณะเป็นของเหลว ใสหรือขุ่นก็ได้ อาจคล้ายน้ำแป้ง หรือ แป้งเปียก ปกติไม่มีกลิ่น

อาการวิงเวียนศีรษะและยารักษา

อาการวิงเวียนศีรษะเป็นอาการที่พบได้บ่อย แต่ถ้ามีร่วมกับอาการบ้านหมุน คลื่นไส้อาเจียน ควรพบแพทย์

ยาพ่นช่องปากและคอ

การเลือกใช้ยาพ่นคอ ควรพิจารณาความรุนแรงของอาการที่เป็น ถ้ามีอาการเล็กน้อย ไม่รุนแรง การใช้สปรย์พ่นคอ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะสำหรับการวิเคราะห์และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะของผู้ใช้งาน

บันทึกการตั้งค่า