ลดไข้ทารก

ยาน้ำลดไข้แก้ปวด สำหรับเด็กทารก

– 1 ขวด บรรจุ 15 มิลลิลิตร

มี 2 แบรนด์ให้เลือก

• TYLENOL DROPS ใน 0.8 มล. ประกอบด้วยตัวยาพาราเซตามอล 80 มก.เป็นยาน้ำชนิดแขวนตะกอนเข้มข้น รสองุ่น ปราศจากแอลกอฮอล์และแอสไพริน
• TEMPRA DROPS ใน 1 มล. ประกอบด้วยตัวยาพาราเซตามอล 100 มก. เป็นยาน้ำเชื่อมใส รสองุ่น ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และแอสไพริน

สรรพคุณ

1. ลดไข้

2. บรรเทาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง ได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดฟัน

ขนาดและวิธีใช้ :

1. เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 เดือน ให้ปรึกษาแพทย์

2. เด็กที่มีน้ำหนัก 4-6 กิโลกรัม รับประทานครั้งละ 0.6 มล. วันละ 4 ครั้ง เช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอน

3. เด็กที่มีน้ำหนัก 6-9 กิโลกรัม รับประทานครั้งละ 0.9 มล. วันละ 4 ครั้ง เช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอน

4. เด็กที่มีน้ำหนักมากกว่า 9-10 กิโลกรัม รับประทานครั้งละ 1 มล. วันละ 4 ครั้ง เช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอน

ส่วนประกอบสำคัญ :

ใน 1 มล. ประกอบด้วย พาราเซตามอล 100 มก.

ข้อควรปฏิบัติระหว่างการใช้ยา

• เขย่าขวดก่อนป้อนยาเด็ก
• ตวงยาและป้อนยาด้วยหลอดหยดที่มาพร้อมกับกล่องยา
• ถ้ากินยาแล้วไข้ไม่ลดภายใน 3 วัน หรืออาการปวดของเด็กไม่บรรเทาภายใน 5 วัน ให้ปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

การเก็บรักษายา

• เก็บรักษายาในที่พ้นแสง หลีกเลี่ยงควมชื้น ถ้ายังไม่เปิดใช้สามารถเก็บี่อุณหภูมิห้องได้
• หลังจากเปิดขวดยาแล้ว ถ้าเก็บที่อุณหภูมิห้อง ไม่ควรนำมาใช้ซ้ำอีกหลังจาก 1 เดือน
• หลังเปิดขวดยาแล้ว ถ้าเก็บในตู้เย็น สามารถเก็บได้นานประมาณ 2 เดือน 
• ควรเก็บยาให้พ้นมือเด็ก

การป้อนยาให้เด็ก

1. หากลูกอาเจียนควรให้ยาซ้ำหรือไม่  ในกรณีที่ป้อนยาแล้วลูกอาเจียนทันที สามารถให้ยาซ้ำได้  แต่หากอาเจียนหลังให้ยา 30 นาที ไม่ต้องป้อนซ้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับยาเกินขนาด

2. ไม่ควรผสมยาลงในขวดนม  เนื่องจากแคลเซียมในนมอาจจับกับยาบางชนิด ทำให้ยาไม่ออกฤทธิ์ และหากเด็กกินนมไม่หมดในครั้งเดียวก็จะทำให้เด็กได้รับยาไม่ครบตามขนาดที่ควรได้รับ หากต้องการผสมให้ใช้น้ำหวานหรือน้ำผึ้งแทน

3. ให้ป้อนยาทีละขนาน เนื่องจากการผสมยา มีผลทำให้ลักษณะทางกายภาพของยาเปลี่ยนไป หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา เช่น อาจทำให้ยามีฤทธิ์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นอันตราย หรือมีฤทธิ์ลดลง ซึ่งจะให้ผลการรักษาไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นควรป้อนยาให้ลูกทีละชนิดจะปลอดภัยกว่า

4. เทคนิคการป้อนยาเด็ก หากเด็กไม่ยอมกินยากับช้อน ให้ใช้หลอดดูดยาค่อยๆ ฉีดยาเข้าข้างกระพุ้งแก้มเด็ก แต่ถ้าหากเด็กปฏิเสธและต่อต้านมาก อาจต้องขอให้สมาชิกคนอื่นในบ้านช่วยกันจับมือและเท้าของเด็กไว้ไม่ให้ดิ้น แล้วจึงค่อยๆ ฉีดยาเข้าข้างกระพุ้งแก้มก็จะสามารถป้อนยาได้สำเร็จ

ระวังฉีดยาเข้าลำคอโดยตรง จะทำให้เด็กเกิดการสำลักได้ และระหว่างการป้อนหากยามียาหก (ซึ่งอาจจะทำให้เด็กได้ยาไม่ครบ) ก็ไม่ต้องให้ยาซ้ำ เนื่องจากเราไม่ทราบว่ายาที่หกไปมีปริมาณเท่าใดกันแน่