การใช้ยาทางตา
มีดังต่อไปนี้คือ
1. การใช้ยาหยอด
ยาที่ใช้จะเป็นในลักษณะของนํ้า อาจจะใสหรือขุ่นหรือมีสีหรืออาจเป็นในลักษณะของนํ้ามัน ที่สามารถหยดเข้าไปในตาได้ ยาหยอดจะอยู่ในตาได้ไม่นานจะไหลออกไปกับนํ้าตาอย่างค่อนข้างรวดเร็ว จึงต้องหยอดบ่อยๆ
2. การใช้ยาป้าย
ยาพวกนี้มาในรูปขี้ผึ้ง ครีม หรือนํ้ามัน ยาอยู่กับตาได้นานและช่วยเป็นสิ่งทำความหล่อลื่นในตา ข้อเสียคือใช้ยากกว่าการหยอด เหนียวเหนอะหนะน่ารำคาญ และอาจทำให้สายตาพร่ามัวไปได้ ข้อดีตามที่กล่าวแล้วคือตัวยาสามารถอยู่ในตาได้นานกว่ายาหยอดและเป็นวิธีที่ใช้รักษาโรคของหนังตาหรืออวัยวะรอบๆ ตาที่เหมาะที่สุด
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ยาหยอด ยาป้าย
1. ใช้ให้ถูกวิธี ถ้ามีสิ่งสกปรกติดอยู่ เช่น ขี้ตา สะเก็ดแผล ควรทำความสะอาดก่อน มิฉะนั้นยาจะไปเกาะอยู่ที่สิ่งสกปรกเหล่านี้ ไม่ถูกกับแผลโดยตรง ทำให้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร
2. ใช้ให้ถูกขนาดตามที่แพทย์กำหนด เช่น 1-2 หยด เพราะ ยาบางอย่างหยอดมากเกินไปในครั้งหนึ่งๆ จะมีอันตรายได้
3. ให้ตรงเวลา เช่น แพทย์ให้หยอดทุก 2 ชม. ก็ควรจะเป็นเวลาประมาณนั้น ไม่มีความสำคัญอะไรมาก ผู้ที่ต้องหยอดยาเป็นประจำ เช่น พวกที่เป็นต้อหินชนิดเรื้อรัง ควรฝึกให้เป็นนิสัยจะได้ไม่ขาดยา เช่น ทำหลังอาหารเช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอน
4. ถ้ามียาหยอดสองขนานต้องหยอดเวลาเดียวกัน ควร หยอดอย่างหนึ่งก่อน รออีกประมาณ 5-10 นาทีจึงหยอดอีกอัน ถ้าหยอดรวมๆ กันในเวลาใกล้กัน ยาอาจจะไปฆ่าฤทธิ์กัน หรืออาจทำให้ทั้งสองเจือจางลงไป ควรจะถามแพทย์ถ้าเกิดมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น
5. ถ้ามียาป้ายกับยาหยอดที่ต้องทำพร้อมๆ กันให้ใช้ยา หยอดก่อน เพราะถ้าป้ายก่อนยาหยอดจะไหลหลุดออกจากตาไปรวดเร็วมาก
6. เก็บยาในที่ๆ เหมาะ มียาบางอย่างต้องเก็บในตู้เย็น หรือห้ามถูกแสงสว่างมากๆ เช่นเดียวกับยาอื่น ต้องไม่เก็บรวมกับพวกอาหารและให้ไกลจากมือเด็ก
7. ไม่ควรใช้ยาขวดเดียวกัน การที่ห้ามเอายาของเราไปให้คนอื่นหยอดอย่างเด็ดขาดนั้น เพราะโรคตา บางอย่างติดต่อกันได้ง่ายมาก โดยผ่านทางยาหยอดหรือป้าย และบางทีดูคล้ายกับว่าเป็นโรคเหมือนๆ กัน แต่จริงๆ แล้ว แตกต่างกันมาก
8. ห้ามเอายาหยอดหรือป้ายตาไปใช้อย่างอื่น เช่น เอาไป รับประทาน เอาไปทาแผลอย่างเด็ดขาด
9. หยอดให้ถูกตา ถ้าอยากจะหยอดอีกข้างให้ถามแพทย์ อย่างละเอียด ยาบางอย่างหยอดอีกตาซึ่งไม่ได้เป็นอะไรอยู่อาจมีโทษอย่างมหันต์
ยาที่ใช้กับตา
1.น้ำยาล้างตา
นํ้ายาที่ใช้ล้างมีพวกกรดบอริก นํ้าเกลือ หรือนํ้าสะอาดธรรมดา ที่นิยมคือใช้ถ้วยที่เหมาะกับตาใส่นํ้ายา แล้วควรมาที่ตาลืมแล้วกลอกตาไปมา ใช้ได้ผลดีพอประมาณ
ปกติแล้วหากเกิดอาการระคายเคืองตา ต่อมน้ำตาจะถูกกระตุ้นให้สร้างน้ำตาออกมามากกว่าปกติ เพื่อชะล้างสิ่งสกปรกออกจากดวงตา ทั้งนี้หากอาการระคายเคืองยังคงอยู่ สามารถใช้น้ำยาล้างตาล้างทำความสะอาดดวงตาเพิ่มเติมได้
แต่ไม่ควรใช้เป็นประจำทั้งที่ไม่มีอาการเจ็บป่วย เนื่องจากน้ำตาประกอบไปด้วยสารสำคัญหลายชนิด ที่ช่วยหล่อลื่นและปกป้องดวงตาจากเชื้อโรค การใช้น้ำยาล้างตาเป็นประจำติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้คุณสมบัติของน้ำตาเสียไป และเพิ่มโอกาสการติดเชื้อที่ตาได้ ดังนั้นหากล้างตาแล้วอาการไม่ดีขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อแก้ไขอาการดังกล่าว
การเก็บรักษา : เมื่อเปิดใช้แล้ว ควรเก็บในตู้เย็น ไม่เกิน 1 เดือน
2. น้ำตาเทียม
ไม่ใช่นํ้าธรรมดาแต่เป็นของเหลวที่ระเหยช้ากว่านํ้า อยู่ในตาได้นานทำหน้าที่หล่อลื่นลูกตา มีประโยชน์ในคนที่มีนํ้าตาน้อย ตาแห้ง มักจะพบมากในคนสูงอายุ ยานี้ใช้ได้นานๆ โดยไม่เกิดโทษ
การเก็บรักษา : เมื่อเปิดใช้แล้ว ควรเก็บในตู้เย็น ไม่เกิน 1 เดือน