ร้อนใน (Aphthous Ulcers) คือ แผลในช่องปากที่มีขนาดเล็ก และตื้น จะออกเป็นสีขาว อาจเกิดบริเวณส่วนใดของช่องปากก็ได้ เช่น ริมฝีปาก แก้ม ลิ้น เป็นต้น ความเจ็บจะขึ้นอยู่กับขนาดของแผล มักเป็นครั้งแรกในช่วงวัยรุ่น และวัยหนุ่มสาว ในผู้หญิงจะพบได้บ่อยกว่าผู้ชาย เป็น ๆ หาย ๆ ทำให้รำคาญใจเวลาทานข้าว หรือดื่มน้ำ แต่แผลร้อนใน ไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงใด ๆ
สาเหตุเกิดจาก
อาการของโรคนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัยรวมกัน รวมถึงอาจมีความสัมพันธ์กับปฏิกิริยาภูมิต้านทานของร่างกายด้วย เนื่องจาก 30-40% ของผู้ที่เป็นโรคนี้บ่อย ๆ จะมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ด้วย ทั้งนี้พฤติกรรมที่กระตุ้นให้เกิดแผลในปาก ได้แก่
• ความเครียด ความกังวล ความเหนื่อยล้า อารมณ์โมโหฉุนเฉียว
• พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย นอนดึก
• การได้รับบาดเจ็บในช่องปาก เช่น เยื่อบุปาก หรือลิ้นถูกกัดในขณะเคี้ยวอาหาร
• การใช้ยาบางชนิด
• การกินอาหารที่มีฤทธิ์ร้อน หรืออาหารที่รสจัดเกินไป
• แพ้อาหารบางอย่าง หรือแพ้สารบางอย่างในยาสีฟัน
• ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ
• การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัสบางชนิด
• ร่างกายขาดวิตามิน และเกลือแร่บางชนิด โดยเฉพาะขาดธาตุเหล็ก สังกะสี กรดโฟลิก วิตามินบี
• การมีประจำเดือนของสตรี
• ไม่ได้แปรงฟัน หรือไม่รักษาความสะอาดภายในช่องปาก
แผลร้อนในสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ตามลักษณะความรุนแรงของโรค ได้แก่
• แผลร้อนในเล็ก พบได้บ่อย เป็นแผลตื้น แผลมีลักษณะกลม หรือเป็นรูปไข่ มีขนาดไม่เกิน 1 เซนติเมตร พื้นแผลจะเป็นสีขาว หรือเหลือง โดยอาจเป็นเพียงแผลเดียวหรือ 2-5 แผลพร้อมกันก็ได้ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวดไม่รุนแรง และแผลมักจะหายไปได้เองภายใน 7-14 วัน อาจเป็นซ้ำได้ทุก 1-4 เดือน
• แผลร้อนในใหญ่ พบได้ประมาณ 10-15% ของแผลร้อนในทั้งหมด พบได้บ่อยในผู้ใหญ่ที่เลยช่วงวัยรุ่นไปแล้ว แผลจะมีลักษณะแบบเดียวกับแผลร้อนในเล็ก แต่แผลจะมีขนาดใหญ่มากกว่า 1 เซนติเมตรขึ้นไป มักเป็นแผลลึก ขอบแผลบวม มีอาการเจ็บปวดรุนแรงกว่า มักหายช้า ใช้เวลานาน 10-40 วัน ถ้าดูแลตนเองแล้วแผลร้อนในไม่ดีขึ้นภายใน 2 อาทิตย์ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อแยกจากแผลอักเสบติดเชื้อหรือแผลมะเร็ง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
• แผลร้อนในชนิดคล้ายเริม พบได้ประมาณ 5-10% มีความรุนแรงกว่าทั้งสองชนิดที่กล่าวมา และไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเริม มักเกิดในวัยผู้ใหญ่หรือคนที่มีอายุมาก และมักพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในช่วงแรกจะขึ้นเป็นตุ่มใสขนาด 0.1-0.3 มิลลิเมตรหลายตุ่ม แล้วแตกรวมเป็นแผลเดียวขนาดใหญ่
ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวดค่อนข้างรุนแรง สามารถหายได้เอง แต่จะใช้เวลานานกว่า 10 วันขึ้นไปจนถึง 2 เดือน ส่วนใหญ่เมื่อเป็นแล้วมักต้องได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์ เมื่อได้รับการรักษาแล้ว แผลมักจะหายไปภายใน 1 เดือน
การรักษาแผลร้อนใน
• บ้วนปากด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาบ้วนปาก วันละ 2-3 ครั้ง
• ถ้าต้องการให้แผลหายเร็ว ทายาที่ใช้ป้ายแผลในปาก วันละ 2-4 ครั้ง เช่น ครีมป้ายปากไตรแอมซิโนโลน อะเซโทไนด์ ชนิดขี้ผึ้ง 1%, ฟลูโอซิโนโลน อะเซโทไนด์ 0.1% ชนิดสารละลายหรือชนิดขี้ผึ้ง, คลอร์เฮกซิดีน กลูโคเนต 0.2%-1% ใช้อมบ้วนปาก
• เลี่ยงอาหารเผ็ดร้อน เพราะจะทำให้แผลพุพองมากขึ้นได้
วิธีป้องกัน อาการร้อนใน
- รักษาความสะอาดของช่องปาก และฟัน แปรงฟันอย่างถูกวิธีวันละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย สามารถใช้น้ำยาบ้วนปาก หรือไหมขัดฟัน เพื่อความสะอาดที่ดีกว่าเดิม
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดการระคายแผล เช่น อาหารแข็ง อาหารทอด อาหารเผ็ด อาหารเปรี้ยวจัด และอาหารรสจัดอื่น ๆ เครื่องดื่มร้อน ๆ และผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น มะนาว รวมไปถึงเครื่องดื่มรสซ่า
- ดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
- รักษาสุขภาพจิตให้ดี ไม่เครียด หรือเป็นกังวลมากจนเกินไป