เด็กคัดจมูก

Showing 1–15 of 17 results

ยาแก้แพ้

เมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้จะกระตุ้น ให้ร่างกายมีการหลั่งสาร histamin,prostaglandin สารเหล่านี้ทำให้เกิดอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล


ยาลดน้ำมูก จาม

น้ำมูกไหล ทำไมเภสัชจ่ายยาแก้แพ้ เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีประสบการณ์ไปซื้อยากินเองเพื่อบรรเทาอาการน้ำมูกไหลที่ร้านยา แต่กลับกลายเป็นว่าได้ยาแก้แพ้มาแทน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ายาแก้แพ้จะบรรเทาอาการน้ำมูกไหลได้อย่างไร? ยาแก้แพ้ชนิดง่วงและไม่ง่วงจะใช้อะไรดี? น้ำมูกไหลที่มีลักษณะใส เกิดจาก 2 สาเหตุใหญ่ คือ
  • น้ำมูกไหลจากไข้หวัด ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เมื่อร่างกายมีภูมิต้านทานลดลง เช่น เครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกาย จะทำให้เกิดอาการของไข้หวัดได้ เช่น มีไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ครั่นเนื้อครั่นตัว เบื่ออาหาร ซึ่งเกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อเชื้อไวรัส รวมทั้งมีการทำงานของต่อมภายในโพรงจมูกให้มีการหลั่งน้ำมูก ทำให้ผู้ป่วยมักมีน้ำมูกใสๆ ตลอดทั้งวัน แต่เมื่อพักผ่อนอย่างเพียงพอ อาการดังกล่าวจะสามารถหายไปได้เองใน 3-4 วัน
  • ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่มักทำให้เกิดน้ำมูกไหลได้คือ น้ำมูกไหลจากการแพ้ หรือ ภูมิแพ้ ซึ่งเกิดจากการสัมผัสกับสารที่ทำให้เกิดการแพ้ เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ เป็นต้น ร่างกายจึงตอบสนองต่อสารที่แพ้ด้วยการหลั่งฮีสตามีน (histamine) ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น มีผื่นคัน หายใจลำบาก คันจมูก รวมทั้งน้ำมูกไหล อาการจึงเป็นๆ หายๆ หรือมีอาการเรื้อรังนานเป็นปี ขึ้นกับระยะเวลาที่ได้สัมผัสกับสารที่แพ้นั่นเอง
ยาแก้แพ้ (antihistamine) คือยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของฮิสตามีนซึ่งหลั่งเมื่อเกิดอาการแพ้ ยาในกลุ่มนี้จึงถูกเรียกสั้นๆ ว่า ยาแก้แพ้ โดยในปัจจุบัน มีอยู่หลายชนิด ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
  1. กลุ่มดั้งเดิม (conventional antihistamines) ที่มีผลข้างเคียงทำให้ง่วง
  2. กลุ่มที่ไม่ทำให้ง่วงนอน (non-sedating antihistamines)
ยากลุ่มดั้งเดิม เช่น คลอเฟนิรามีน (chlorpheniramine), บรอมเฟนิรามีน (brompheniramine) , ไดเฟนไฮดรามีน (diphenhydramine), ไดเมนไฮดริเนต (dimenhydrinate), ไฮดรอไซซีน (hydroxyzine), ทริโปรลิดีน (triprolidine) เป็นต้น ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของฮิสตามีนและยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทอะเซทิลโคลีน (anticholinergic) ที่ทำให้ต่อมภายในโพรงจมูกหลั่งน้ำมูก ทำให้น้ำมูกลดลงจึงสามารถใช้บรรเทาอาการน้ำมูกไหลจากทั้งสาเหตุไข้หวัดและอาการแพ้ได้ ยาในกลุ่มนี้สามารถผ่านเข้าสู่สมองไปกดระบบประสาท ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่สำคัญ คือมีอาการง่วงซึม และอาจพบอาการข้างเคียงอื่นๆ ได้อีก เช่น ปากแห้ง คอแห้ง ตาพร่า ท้องผูก ปัสสาวะคั่ง ยากลุ่มที่ไม่ทำให้ง่วงนอน เช่น เฟโซเฟนาดีน (fexofenadine), ลอราทาดีน (loratadine), เซทิริซีน (cetirizine), เลโวเซทิริซีน (levocetirizine) เป็นต้น ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของฮิสตามีนโดยไม่ยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทอะเซทิลโคลีน ทำให้ใช้บรรเทาอาการน้ำมูกไหลจากภูมิแพ้ได้ดี และพบว่ามีผลข้างเคียงต่ำกว่ากลุ่มดั้งเดิม อันได้แก่ อาการปากแห้ง คอแห้ง ตาพร่า ท้องผูก และปัสสาวะคั่ง รวมทั้งยาในกลุ่มนี้สามารถผ่านเข้าสู่สมองได้น้อยกว่าจึงทำให้เกิดผลข้างเคียงง่วงซึมได้น้อยกว่าอีกด้วย สรุปคือ การเลือกใช้ยาลดน้ำมูกจะต้องพิจาณาถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการน้ำมูกไหล ประกอบกับประสิทธิภาพของยาและความปลอดภัยของผู้ป่วย

ไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ เป็นการติดเชื้อ Influenza virus เป็นการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น จมูก คอ หลอดลมและปอด เชื้ออาจจะลุกลามเข้าปอดทำให้เกิดปอดบวม ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดศรีษะ ปวดตามตัวปวดกล้ามเนื้อมาก จะพบมากทุกอายุโดยเฉพาะในเด็กจะพบมากเป็นพิเศษ แต่อัตราการเสียชีวิตมักจะพบมากในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคตับ โรคไต เป็นต้น การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด สามารถลดอัตราการติดเชื้อ ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล ลดโรคแทรกซ้อน ลดการหยุดงานหรือหยุดเรียน ไข้หวัดธรรมดา  เป็นการติดเชื้อไวรัสผู้ป่วยจะมีอาการน้ำมูกไหล ไข้จะไม่สูงมาก เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แบ่งออกเป็น 4 สายพันธุ์ คือ Influenza A, B, C และ D ซึ่งสายพันธุ์ A และ B เป็นสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดการระบาดในท้องถิ่น ตามฤดูกาล เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ สามารถเกิดขึ้นได้ผ่านการติดต่อระหว่างสัตว์ หรือการกลายพันธุ์ในระหว่างกระบวนการจำลองรหัสพันธุกรรมของไวรัสตัวใหม่ โดยหากไม่ได้รับการรักษาในระยะเวลาที่เหมาะสม ไข้หวัดใหญ่อาจนำไปสู่โรคปอดบวม, หลอดลมอักเสบ, ไซนัสอักเสบ,ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรืออาจถึงแก่ชีวิตได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพในระยะยาว เช่น หอบหืด หรือ ภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ไข้หวัดใหญ่ติดต่ออย่างไร เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ติดต่อจากคนสู่คน ผ่านการกระจายของเชื้อผ่านสารคัดหลั่ง ที่ผู้ป่วยไอ หรือ จามออกมา การแพร่กระจายในบางครั้ง อาจเกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัส หรือสัมผัสพื้นผิวที่มีการปนเปื้อนของเชื้อ1
ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้มากที่สุุดในช่วง 3-4 วันแรกที่มีอาการป่วย แต่ในบางคนสามารถแพร่เชื้อ ได้ก่อนที่จะมีอาการแสดงและคงอยู่นานถึง 7 วัน นอกจากนี้ในผู้ป่วยเด็กบางคนและคนทีมีภูมิคุ้มกันต่ำจะมีช่วงระยะเวลาของการแพร่เชื้อที่ยาวนานกว่า ใครบ้างที่มีผลกระทบจากไข้หวัดใหญ่ ทุกคนสามารถได้รับผลกระทบจากไข้หวัดใหญ่ แต่ในคนบางกลุ่มจะมีความเสี่ยงที่สูงกว่า กลุ่มความเสี่ยงสูงนี้ประกอบด้วย
  • หญิงตั้งครรภ์
  • เด็ก อายุน้อยกว่า 5 ขวบ
  • ผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป
  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด, โรคหัวใจเรื้อรัง, โรคไต, ตับเรื้อรัง
  • ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำที่เกิดจาก โรคหรือยา เช่น ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV หรือผู้ป่วยที่ใช้ยา steroids
  • บุคลากรทางการแพทย์ที่มีโอกาสพบปะกับผู้ป่วย
อาการแสดงของไข้หวัดใหญ่
  • อาการคลื่นไส้อาเจียน และท้องเสีย 
  • ไข้สูงอย่างรวดเร็ว เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังติดเชื้อ
  •  การติดเชื้อ สามารถทำให้เกิดอาการเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง และอาจรุนแรงถึงชีวิตได้ในผู้ป่วยบางราย เช่น เกิดโรคแทรกซ้อน คือปอดบวม 
  • อาการแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้อสามารถทำให้เกิดภาวะล้มเหลวของเนื้อเยื่อและอวัยวะ เช่น ระบบสมอง, ระบบหัวใจและกล้ามเนื้อ
จัดการไข้หวัดใหญ่อย่างไร การจัดการกับไข้หวัดใหญ่ มี 2 ประเภท คือ
  1. การป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนก่อนการติดเชื้อ 
  2. การรักษาด้วยการใช้ยาฆ่าเชื้อไวรัสหลังจากมีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้ว

บทความล่าสุด

รูปแบบของอาหารเพื่อสุขภาพ

ปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ หรือ อาหารฟังก์ชั่น มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ตามกระแสนิยมเรื่องการดูแลสุขภาพ คนเราจะเลือกบริโภคอาหารเพื่อให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ชะลอความเจ็บป่วย มากกว่าที่จะบริโภคอาหารเพื่อบรรเทาความหิวอย่างเดียว

อ่านเพิ่มเติม
การดูแลรักษาแผลเป็น

แผลเป็น เป็นเรื่องธรรมชาติ เกิดขึ้นหลังจากที่ผิวหนังมีการฉีกขาด จะมีอาการรุนแรงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ ขนาดและความลึกของแผล ขั้นตอนการดูแลรักษาแผล พันธุกรรม และฮอร์โมน สำหรับแผลเป็นที่ไม่รุนแรง คนไข้สามารถดูแลรักษาด้วยตนเองได้ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยแผลเป็นที่หาซื้อได้สะดวกตามร้านยา

อ่านเพิ่มเติม
การดูแลบาดแผลให้หายเร็ว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น

เป้าหมายหลักของการดูแลแผลคือ ทำให้แผลหายเร็วที่สุด เพื่อลดผลไม่พึงประสงค์ เช่น แผลเป็น หรือการติดเชื้อ ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุในการทำแผลให้เหมาะสมกับสภาวะของบาดแผล มีความสำคัญมาก เพราะวัสดุปิดแผลสมัยใหม่จะมีราคาค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ให้ประโยชน์คุ้มค่า

อ่านเพิ่มเติม
การใช้สมุนไพรไทยดูแลภาวะลองโควิด

ผู้ป่วยที่เคยป่วยติดเชื้อไวรัส SARS-CoV 2 ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายหลังหายป่วย เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลยและควรใส่ใจดูแล ฟื้นฟูสุขภาพให้กลับมาแข็งแรงสมบูรณ์โดยเร็วที่สุดโดยถ้าอาการไม่รุนแรงในเบื้องต้น สามารถใช้สมุนไพรควบคู่กับการดูแลด้านโภชนาการและการออกกำลังกายที่เหมาะสม

อ่านเพิ่มเติม
ความเครียดเกี่ยวข้องกับสมองอย่างไร

ภาวะเครียดจะทำให้ร่างกายมีการสร้างและหลั่งฮอร์โมนความเครียดในระดับที่สูงขึ้นมากกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลต่อสารสื่อประสาทในสมองซึ่งทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาท ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองแย่ลง หากเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานและบ่อยครั้งจะทำให้มีโรคอื่นๆตามมา

อ่านเพิ่มเติม
นอนไม่หลับสัมพันธ์กับการทำงานของสมองอย่างไร

การนอนหลับนั้นไม่ใช่ภาวะที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มันภาวะที่ร่างกายก่อขึ้นมาอย่างตั้งใจเพื่อความอยู่รอดของชีวิต และเกี่ยวข้องการทำงานของสมองในส่วนของ ก้านสมอง และ ไฮโปธารามัส การนอนไม่หลับเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต

อ่านเพิ่มเติม
ความทรงจำของมนุษย์เกิดขึ้นได้อย่างไร

ความทรงจำช่วยให้เรายึดมั่นกับสิ่งที่เราเรียนรู้และมีประสบการณ์ได้ ความจำเริ่มต้นด้วยกระบวนการที่สมองรับรู้ข้อมูลจำนวนมหาศาลทั้งเรื่องของตัวเราและเรื่องอื่นๆรอบตัวเรา และกลั่นกรองส่วนสำคัญเพื่อบันทึกในสมองส่วนที่เกี่ยวข้อง และสามารถดึงเอาสิ่งที่บันทึกไว้ออกมาใช้ได้เมื่อต้องการ

อ่านเพิ่มเติม
ผลกระทบต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่

ในควันบุหรี่มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่ากายมนุษย์อยู่มากกว่า 4,000 ชนิด ในจำนวนนี้ มีประมาณ 60 ชนิดที่มีหลักฐานทางการแพทย์ชัดเจนว่าเป็นสารก่อมะเร็ง คนไทยจำนวนมากยังคงสูบบุหรี่แม้จะทราบดีถึงพิษภัยอันสืบเนื่องมาจากบุหรี่เป็นอย่างดี

อ่านเพิ่มเติม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะสำหรับการวิเคราะห์และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะของผู้ใช้งาน

บันทึกการตั้งค่า