ร้านขายยาเป็นส่วนหนึ่งของระบบสาธารณสุขที่อยู่ในภาคเอกชน แต่เกือบทั้งหมดกลับไม่มีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติการและดูแล ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นธุรกิจที่มุ่งแสวงหาผลกำไรสูงสุดแบบไร้มาตรฐานที่ควรจะมี ประกอบกับมีจำนวนมากเกือบ 20,000 แห่ง กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศไทย ดังนั้นการกำหนมาตรฐานที่ดีของร้านขายยาขึ้นมาบังคับใช้เป็นกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาในระบบธุรกิจร้านขายยาที่สะสมมายาวนานนับสิบๆปี มีความจำเป็นต้องทำเพื่อพัฒนาให้มีการปฏิบัติที่ดีทางเภสัชกรรมในร้านขายยา
มาตรฐานคุณภาพที่ดีร้านขายยา คือ หลักสากลโลกเกี่ยวกับข้อกำหนดหลักการปฏิบัติที่ดีทางเภสัชกรรม กำหนดโดย The International Pharmaceutical Federation (FIP)
เนื่องจากร้านขายยาถือเป็นหน่วยบริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน มีหน้าที่สร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และดูแลสุขภาพของประชาชน การพัฒนาให้มี การปฏิบัติที่ดีทางเภสัชกรรมในร้านขายยา จะทำให้เกิดประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการบริการ และถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศไทยด้วย
ความเป็นมาของมาตรฐานร้านขายยา
หลักวิธีปฏิบัติที่ดีทางเภสัชกรรม ( Good Pharmacy Practice : GPP) เป็นแนววิธีปฏิบัติที่ดีทางเภสัชกรรมในการดูแลสุขภาพ เป็นข้อกำหนดสำคัญของมาตรฐานคุณภาพร้านขายยา ซึ่งได้เริ่มพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ.2534 ภายใต้ชื่อ Standard for quality of pharmacy services โดย The International Pharmaceutical Federation (FIP) และได้จัดทำแล้วเสร็จเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2536
องค์การอนามัยโลก ( World Health Assembly : WHO) ให้การรับรอง GPP เป็นมติที่ WHA 47.12 : Role of the pharmacist in support of the WHO revised drug strategy ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2537
เป้าหมายของการใช้ GPP ในประเทศไทย
วัตถุประสงค์ของการนำมาตรฐานวิธีปฏิบัติที่ดีทางเภสัชกรรม GPP. Good Pharmacy Practice มีดังนี้
- ตอบสนองต่อกฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ให้มีความปลอดภัยในการใช้บริการในร้านขายยา
- เตรียมความพร้อมให้ร้านขายยาในประเทศไทยสามารถเข้าสู่การแข่งขันในระบบเปิดเสรีการค้าประชาคมอาเซียนได้
- ยกระดับมาตรฐานการให้บริการของเภสัชกรในร้านขายยาให้เชื่อมโยงการให้บริการของเภสัชกรในโรงพยาบาลได้ “แบบไร้รอยต่อ” เพื่อพัฒนาระบบยาและระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยให้ยั่งยืน
- ยกระดับร้านขายยาให้เป็นหน่วยบริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน มีหน้าที่ บริการจัดหา จำหน่าย ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตลอดจนง่ายต่อการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขของประชาชน เช่น คัดกรองโรค ให้คำปรึกษา ส่งต่อ และติดตามผู้ป่วย
การบังคับใช้ GPP ในประเทศไทย
ในประเทศไทย ระยะแรกมีการนำมาตรฐานร้านขายยา GPP มาใช้แบบให้ร้านขายยาสมัครใจเข้าร่วม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากร้านขายยาน้อยมากและไม่ประสบผลสำเร็จ
ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาให้มีการนำ หลักวิธีปฏิบัติที่ดีทางเภสัชกรรม มาใช้ในร้านขายยาที่ยั่งยืน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. ) จึงได้ยกร่างกฏกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการออกใบอนุญาตและต่อใบอนุญาตเกี่ยวกับการขายยาแผนปัจจุบัน พ.ศ.2556 โดยนำเกณฑ์หลักวิธีปฏิบัติที่ดีทางเภสัชกรรม GPP มาเป็นข้อบังคับใช้ ให้ร้านขายยาแผนปัจุบันทุกประเภทต้องปฏิบัติตาม และเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา
ร้านขายยาแผนปัจจุบัน 4 ประเภทที่จะต้องอยู่ภายใต้กฎกระทรวงนี้ มีดังนี้
- ร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1)
- ร้านขายยาแผนปัจจุบันเฉพาะยาบรรจุเสร็จที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ (ข.ย.2)
- ร้านขายยาแผนปัจจุบันเฉพาะยาบรรจุเสร็จสำหรับสัตว์(ข.ย.3)
- ร้านขายยส่งยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.4)
ในส่วนของการนำมาบังคับใช้ จะแยกบังคับกับร้านขายยาแผนปัจจุบัน 2 กลุ่มดังนี้
- กลุ่มร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตก่อนวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557
จะให้เวลาผ่อนผันในการปรับตัว ปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามกฎกระทรวงภายในระยะเวลาไม่เกิน 8 ปี นับแต่วันที่ กฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ คือ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2565 โดยแบ่งบังคับตามระยะเวลา แบบขั้นบันได 3 ขั้น ดังนี้
บันได GPP ขั้นที่ 1 ต้องปฏิบัติภายในการต่ออายุสิ้นปี พ.ศ.2561
บันได GPP ขั้นที่ 2 ต้องปฏิบัติภายในการต่ออายุสิ้นปี พ.ศ. 2563
บันได GPP ขั้นที่ 3 ต้องปฏิบัติภายในการต่ออายุสิ้นปี พ.ศ. 2565
2.กลุ่มร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตนับตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557เป็นต้นมา
ให้กฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ทันที
รายละเอียดทั้งหมดอ่านเพิ่มเติมที่ : GOOD PHARMACY PRACTICE (GPP)
การใช้มาตรฐานคุณภาพร้านขายยาแบบบันได 3 ขั้น
การบังคับใช้มาตรฐานร้านขายยา แบบบันได GPP 3 ขั้นมีดังนี้
บันได GPP ขั้นที่1 ประกอบด้วยข้อกำหนด 21ข้อ แยกย่อยเป็น 5 หมวด
- หมวดสถานที่
- หมวดอุปกรณ์
- หมวดบุคลากร
- หมวดคุณภาพยา
- หมวดบริการ
หมวดสถานที่
- สถานที่ขายยาต้องมีความแข็งแรงก่อสร้างด้วยวัสดุที่คงทนถาวรเป็นสัดส่วน ถูกสุขลักษณะ สะอาด และเป็นระเบียบ
- ติดเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิในร้านและต้องควบคุมอุณหภูมิภายในบริเวณให้บริการและพื้นที่เก็บยาไม่ให้เกิน 30 องศาเซลเซียส และต้องมีหลักฐานลงบันทึกประจำวัน
- ไม่มีสิ่งก่อความชื้นในร้านเช่น ตู้ปลา แอร์น้ำ ไม้ถูพื้น เป็นต้น
- ใช้แสงสีขาว (day light) มีความสว่างเพียงพอต่อการอ่านฉลากยา
- มีป้ายแสดงตนของเภสัชกร ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
- ยาอันตรายและยาควบคุมพิเศษ ต้องอยู่ใน “พื้นที่ให้บริการโดยเภสัชกร” เท่านั้น และมีม่านปิดบังส่วนนี้เมื่อไม่มีเภสัชกรให้บริการ
- มีป้ายบอกประเภทยา เช่น ยาทาภายนอก ยาสามัญประจำบ้าน ยาล้างแผลทำแผล เป็นต้น
- ต้องแยกพื้นที่สำรองยาออกจากบริเวณชั้นวางโชว์จำหน่ายยา พร้อมมีป้ายระบุว่าเป็นพื้นที่สำรองยา
หมวดอุปกรณ์
-มีตู้เย็นสำหรับจัดเก็บยาที่ต้องเก็บรักษาในที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส และต้องรักษาอุณหภูมิในตู้เย็นให้ได้ 2-8 องศาเซลเซียสพร้อมทั้งต้องบันทึกอุณหภูมิประจำวัน 1-2 ครั้ง ในแบบบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
– ยาที่เก็บในตู้เย็นต้องแยกเก็บในภาชนะปิดมิดชิด เช่นซองซิปใส กล่องพลาสติคมีฝาปิด
– มีถาดนับเม็ดยา 2 ถาดขึ้นไป คือ ถาดนับเม็ดยาทั่วไปและถาดนับยาเพนนิซิลลิน
– มีอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็น ได้แก่ เครื่องวัดความดันโลหิตสูงแบบอัติโนมัติ เครื่องชั่งน้ำหนัก
หมวดคุณภาพยา
- ต้องมีการคัดเลือกยาและจัดหายาจากผู้ผลิต ผู้นำเข้า จำหน่ายถูกต้องตามกฏหมายและมีมาตรฐาน
- มีระบบส่งคืนและทำลายยาหมดอายุ และตรวจสอบคุณภาพยาอย่างสม่ำเสมอ
หมวดบริการ
- จัดให้มีแหล่งอ้างอิงด้านยาที่เหมาะสมและเชื่อถือได้ เพื่อส่งเสริมการใช้ยาอย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมถึงการให้บริการเภสัชสนเทศ
- การทำกิจกรรมด้านสุขภาพโดยบุคคลกรที่ไม่ใช่เภสัชกรในร้าน ต้องได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากเภสัชกร และถือเป็นความรับผิดชอบของเภสัชกรผู้ควบคุม
- มีระบบกำกับ ติดตาม และ ตรวจสอบยาหมดอายุ
- ไม่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ในร้าน
บันได GPP ขั้นที่ 2 มี 4 หมวด
1.หมวดสถานที่
2.หมวดอุปกรณ์
3.หมวดบุคลากร
4.หมวดบริการ
หมวดสถานที่
- จุดให้บริการโดยเภสัชกรและจุดให้คำปรึกษาแนะนำด้านยามีพื้นที่รวมไม่น้อยกว่า 8 ตารางเมตร มีด้านที่สั้นที่สุดไม่น้อยกว่า 2 เมตร
- พื้นที่สำรองยาเป็นระเบียบ ไม่วางยาสัมผัสพื้นโดยตรง
- สถานที่ขายยาต้องมีทะเบีนบ้านที่ออกโดยส่วนราชการ กรณีเป็นอาคารชุดต้องเป็นพื้นที่อนุญาตให้ประกอบกิจการไม่ใช่ที่พักอาศัย
หมวดอุปกรณ์
- มีอุปกรณ์วัดส่วนสูงสภาพดี 1 ชุด
- มีถังดับเพลิงติดตั้งไว้ในลักษณะหยิบใช้งานสะดวก คือ มีพื้นที่ว่างรอบๆ 30 เซนติเมตรขึ้นไป วางสูงจากพื้นไม่เกิน 150 เซนติเมตร
หมวดบุคลากร
- พนักงานผู้ช่วยเภสัชกรมีความรู้เรื่องกฎหมาย มีการอบรมความรู้อย่างต่อเนื่อง
- แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบชัดเจนระหว่างเภสัชกรและผู้ช่วยเภสัชกร
หมวดบริการ
- การให้บริการทางเภสัชกรรม การส่งมอบยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษต้องอยู่ภายใต้การดูแลรับผิดชอบของเภสัชกร
- ซองยามีรายละเอียด ดังนี้
*ชื่อร้าน ที่อยู่ บอร์โทรศัพท์ติดต่อ
* ชื่อยา
*ชื่อผู้ใช้ยา
* ข้อบ่งใช้
*วิธีใช้ยา
* คำแนะนำ/คำเตือน
-มีการคัดกรองสื่อโฆษณาที่ถูกกฎหมาย สำหรับจัดวางในร้าน โดยต้องมีการปรึกษาเภสัชกรด้วย เพื่อป้องกันการโฆษณณาเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค
บันได GPP ขั้นที่ 3
หมวดสถานที่
- ต้องมีบริเวณสำหรับให้คำปรึกษาและแนะนำการใช้ยาและมีอุปกรณ์พร้อม เช่นโต๊ะ เก้าอี้ พร้อมป้ายแสดงบริเวณให้คำแนะนำปรึกษา โดยควรเป็นสัดส่วนชัดเจนเฉพาะไม่ปะปนกับบริเวณจำหน่ายยา
หมวดคุณภาพยา
- จัดทำบัญชียาตามกฎหมาย
สรุป
ภายในปี พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป หากร้านขายยาแผนปัจจุบันใดก็ตาม (ไม่มียกเว้น ทุกร้าน)ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานคุณภาพที่ดีร้านขายยา (GPP ) หรือหลักวิธีปฏิบัติที่ดีทางเภสัชกรรม ผู้อนุญาตขายยา(หน่วยราชการ) มีสิทธิที่จะไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตขายยาหรือไม่อนุญาตให้เปิดร้านขายยาได้ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 21 พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557
การบริบาลทางเภสัชกรรม (Pharmaceutical care)
การบริบาลทางเภสัชกรรม หมายถึง ความรับผิดชอบของเภสัชกรโดยตรงที่มีต่อการใช้ยาของผู้ป่วย เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ถูกต้องตามที่ต้องการและเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ผลการรักษาที่ถูกต้องคือ
โดยเภสัชกรจะปฏิบัติงานร่วมกับบุคคลากรทางการแพทย์ทางสาธาณสุขอื่นๆ เรียกว่า ทีมสหสาขาวิชาชีพและมีหน้าที่หลักในการค้นหา แก้ไข และป้องกันปัญหาที่เกิดจากการใช้ยา ตลอดจนติดตามประเมินผลที่เกิดขึ้นจากการรักษาด้วยยา เพื่อให้เกิดระบบยาที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงสุด
สินค้าแนะนำ
fixomull
สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูกเด็กเล็ก
INNAQUA
เซรั่มแก้ผมร่วงฮีรูดอยด์
แผนที่ที่ตั้งร้าน
ร้านยาของเรา
วิวร้านกลางวัน
วิวภายในร้าน
วิวภายในร้าน
วิวภายในร้าน
เภสัชกรเหลียน
พนักงานผู้ช่วยนูรีดา
พันธมิตรของเรา
บริษัทยาที่เป็นพันธมิตรสนับสนุนเรา