โดยทั่วไป การดูแลรักษาโรคติดบุหรี่ให้ได้ผลสูงสุด ต้องอาศัยหลายแนวทาง คือทั้งแบบไม่ใช้ยาที่เรียกว่า พฤติกรรมบำบัด และแบบที่ใช้ยาช่วยเลิกบุหรี่ ร่วมกันเสมอเพื่อให้ได้อัตราความสำเร็จสูงสุดคือประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์
การรักษาด้วยแนวทางใดแนวทางหนึ่งเพียงอย่างเดียวนั้นมีโอกาสสำเร็จน้อยกว่าการใช้หลายๆแนวทางร่วมกันอย่างชัดเจน กระบวนการให้คำแนะนำปรึกษาเพื่อการเลิกบุหรี่โดยบุคลากรทางการแพทย์จึงเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากไม่น้อยไปกว่าความตั้งใจมุ่งมั่นของตัวผู้ป่วยเอง
สารบัญ
แนวทางการบำบัดรักษาโรคติดบุหรี่แบบไม่ใช้ยา
กระบวนการให้บริการเลิกบุหรี่ มีหลักการที่สำคัญคือ ต้องประเมินผู้สูบบุหรี่ว่ามีความพร้อมมากน้อยเพียงใด เพื่อที่ผู้ดูแลจะจัดการเรื่องการตั้งเป้าหมายร่วมกับผู้ป่วยและวางแผนวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับผู้รับบริการแต่ละคน
แนวทางการรักษา มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงปัญหาการเสพติดนิโคตินและวิธีการรับมือกับอาการถอนนิโคติน ซึ่งมีขั้นตอนประกอบด้วย :-
- แนวทางการบำบัดผู้ป่วยติดบุหรี่ด้วยเทคนิค 5A
- การประเมินความพร้อมในการเลิกสูบบุหรี่ของผู้ป่วย
- การวางแผนการเลิกบุหรี่ด้วยเทคนิค STAR
- การสร้างแรงจูงใจในการเลิกบุหรี่ด้วยเทคนิค 5R
- การป้องกันการกลับไปสูบบุหรี่ซ้ำ ด้วยเทคนิค 5D
แนวทางการบำบัดด้วยเทคนิค 5A
เทคนิค 5A คือ
- Ask : การถามและบันทึกประวัติการเสพผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิด
- Advise : การแนะนำให้ผู้ป่วยเลิกสูบบุหรี่ทุกชนิดโดยเด็ดขาด
- Assess : การประเมินความรุนแรงในการติดบุหรี่และความตั้งใจในการเลิกสูบ
- Assist : การช่วยเหลือและบำบัดอย่างเหมาะสมเพื่อให้เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ
- Arrange : การติดตามผลการบำบัดของผู้ป่วยทุกราย
1.ASK : –
คือ การสอบถามสถานะของการเสพยาสูบทุกชนิดของผู้ที่เข้ามารับบริการที่สถานบริการสุขภาพทุกระดับ ทุกแผนก และบุคคลในครอบครัวทุกราย โดยบันทึกข้อมูลนี้ลงในเวชระเบียนของผู้ป่วยด้วย เช่น ยังสูบบุหรี่อยู่ เคยสูบบุหรี่แต่เลิกสูบมาแล้วนานเท่าใด หรือไม่เคยสูบบุหรี่เลย
2.Advise :-
คือ การแนะนำให้เลิกสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด ด้วยการสื่อสารเป็นภาษาพูดที่ชัดเจน ตรงประเด็น และเหมาะสมกับปัญหาของผู้ป่วยแต่ละราย
3.Assess :-
การประเมินเกี่ยวกับแรงจูงใจหรือความพร้อม ความตั้งใจ ของผู้ป่วยในการเลิกสูบบุหรี่ และ ประเมินความรุนแรงในการเสพติดบุหรี่
- การประเมินความพร้อมของผู้ป่วยในการเลิกบุหรี่โดยใช้ ทฤษฎีขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ( The transtheoretical model or stage of change)
ทำได้ 2 วิธี ดังนี้
1.1 ใช้คำถาม 2 ข้อ
คำถามที่ 1 คุณวางแผนที่จะเลิกบุหรี่ในอีก 6 เดือนข้างหน้าใช่หรือไม่?
- ตอบว่า ไม่ใช่ แสดงว่า ผู้ป่วยอยู่ในขั้นไม่สนใจและไม่พร้อมเลิกบุหรี่(precontemplation)
- ตอบว่า ใช่ ให้ดูคำถามข้อที่ 2
คำถามที่ 2 คุณวางแผนที่จะเลิกบุหรี่ในอีก 1 เดือนข้างหน้าใช่หรือไม่ ?
- ตอบว่า ไม่ใช่ แสดงว่า ผู้ป่วยอยู่ในขั้นลังเลใจ (contemplation)
- ตอบว่า ใช่ แสดงว่า ผู้ป่วยอยู่ในขั้นพร้อมจะเลิกบุหรี่ (preparation)
ตารางขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
1.2 ใช้บันไดความพร้อมเลิกบุหรี่ ( The readiness to quit ladder)
ใหผู้ป่วยเลือกข้อที่ตรงกับความคิดของตัวเองมากที่สุด เพียงข้อเดียว
ตารางบันไดความพร้อมเลิกบุหรี่
2.ประเมินความรุนแรงของการเสพติดบุหรี่ โดยใช้ FTND หรือ HIS
- FTND : Fagerstrom test level of nicotine dependence
- HIS : Heaviness of Smoking index
ซึ่งจะเป็นการวัดระดับการเสพติดนิโคติน เพื่อประเมินว่า ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะสม
การแปลผลคะแนนประเมินการเสพติดนิโคติน เป็นดังนี้
0-3 คะแนน : ติดนิโคตินระดับต่ำ
4-6 คะแนน : ติดนิโคตินระดับปานกลาง
7-10 คะแนน : ติดนิโคตินระดับสูง
ตาราง FTND
ตาราง HSI
สนใจอ่านเพิ่มเติมที่ : การเลิกสูบบุหรี่
4.Assist :-
ขั้นตอนการช่วยเหลือและบำบัดนี้ จะแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ เพื่อการดูแลให้เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด คือ
กลุ่มที่ 1 คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการประเมินแล้วว่า อยู่ในขั้นตัดสินใจและเตรียมพร้อมเลิกบุหรี่ โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้จะได้รับการดูแลด้วยเทคนิค STAR
กลุ่มที่ 2 คือผู้ป่วยที่ได้รับการประเมินแล้วว่า ยังอยู่ในช่วงไม่สนใจและยังลังเลไม่ตัดสินใจเลิกบุหรี่อย่างจริงจัง โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้จะได้รับการดูแลด้วยเทคนิค 5R
เทคนิค STAR
การดูแลผู้ป่วยกลุ่มที่ผู้ป่วยที่มีตัดสินใจและมีความพร้อมในการเลิกสูบบุหรี่ บุคลากรทางการแพทย์ จะยึดหลักการรักษาเบื้องต้น ดังนี้
- เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ร่วมวางแผนการรักษาโรคติดบุหรี่กับผู้ดูแล เพื่อให้การบำบัดเกิดประสิทธฺภาพสูงสุด
- ผู้ดูแลจะกำหนดวันเลิกสูบบุหรี่ที่แน่นอนในการเลิกสูบบุหรี่เด็ดขาดร่วมกับผู้ป่วย และอธิบายขั้นตอนการบำบัดรักษา ตลอดจนเป้าหมายการรักษาให้ผู้ป่วยเข้าใจและรับทราบ
- ลักษณะของแผนบำบัด ต้องมีลักษณะที่สามารถปฏิบัติได้จริงทั้งผู้ป่วยและผู้บำบัด
ขั้นตอนนี้ ผู้รักษาจะใช้เทคนิค ที่เรียกว่า STAR ความหมายคือ :-
- S : set a target quit date = เลือกวัน
ข้อนี้สำคัญที่สุด คือจะต้องมีการกำหนดวันเลิกสูบบุหรี่ภายใน ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์หลังผู้ป่วยตัดสินใจรักษา หรือสูงสุดต้องไม่เกิน 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ผู้ป่วยจะต้องมีส่วนร่วมด้วย
หลังจากนั้นผู้ดูแลจะเสนอแผนการค่อยๆ ลดจำนวนการสูบบุหรี่ลงเรื่อยๆ จนเป็น 0 ในวันที่กำหนดงดสูบโดยเด็ดขาด
ไม่แนะนำให้ใช้การหยุดสูบทันทีเมื่อถึงกำหนดวันเลิกสูบบุหรี่ เพราะมีการศึกษาแล้วว่ามีโอกาสล้มเหลวสูงมาก
- T : Tell family and other = ลั่นวาจา
ผู้ดูแล จะแนะนำให้ผู้ป่วยบอกกล่าว คนในครอบครัว เพื่อน ๆ ผู้ร่วมงาน หรือ คนอื่นๆรอบข้างว่ากำลังรักษาโรคติดบุหรี่อยู่ ชี้แจงให้คนรอบข้างเข้าใจพร้อมขอกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกๆคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในครอบครัว
- A : Anticipate challenges = พร้อมลงมือ
ขั้นตอนนี้ ผู้ดูแลจะเป็นผู้จัดการความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย เมื่อหยุดสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด คือการวางแผนรับมือกับอาการถอนนิโคติน ซึ่งจะรุนแรงมากในช่วง 3 วันแรกของการหยุดสูบและจะยังคงมีอาการต่อไปอีกนาน 3-4 สัปดาห์
การเสพติดนิโคตินเป็นอุปสรรคหลักในการเลิกสูบบุหรี่ อาการถอนนิโคตินที่เกิดขึ้น จะทำให้ผู้ป่วยกระสับกระส่าย รู้สึกไม่สบาย ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิในการทำงาน
ในขั้นตอนนี้ผู้ดูแลจะสอนผู้ป่วยฝึกการใช้ แผนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ที่เรียกว่า เทคนิค 5D เมื่อมีความรู้สึกอยากสูบบุหรี่ ซึ่งสามารถใช้ไปจนถึงขั้นตอนป้องกันการกลับไปสูบบุหรี่ซำ้ใหม่ได้
- R: Remove all tobacco-related products = ละทิ้งอุปกรณ์
ผู้ดูแล จะบอกกล่าวให้ ผู้ป่วยจัดการกำจัดบุหรี่ ยาสูบทุกชนิด รวมทั้งหมากพลู และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ทั้งหมด รวมถึงการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เป็นตัวกระตุ้นในการสูบบุหรี่ เช่น ไปยังสถานที่ที่เคยสูบบุหรี่ประจำ การดื่มสุรา แอลกอฮอล์
สนใจอ่านรายละเอียด : การเตรียมตัวเลิกบุหรี่
เทคนิค 5 R
สำหรับผู้ป่วยที่ยังไม่มีความพร้อมเต็มที่ในการเลิกสูบบุหรี่ บุคลากรทางการแพทย์จะติดตามให้ข้อมูลเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ ผลดีของการไม่สูบบุหรี่ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจและให้ความมั่นใจแก่ผู้ป่วยว่า การเลิกสูบบุหรี่สามารถประสบความสำเร็จได้ถ้าตั้งใจมุ่งมั่น เรียกการบำบัดนี้ว่า การใช้เทคนิค 5R
- Relevance :
การชี้ให้เห็นว่าการสูบบุหรี่ เป็นปัญหาและมีความสัมพันธ์กับปัญหาทางสุขภาพของตัวผู้ป่วยเอง เช่น ฟันผุ แผลในกระเพาะอาหาร ผิวเหี่ยวย่น เป็นต้น - Risks :
การเน้นย้ำถึงผลเสียจากการสูบบุหรี่ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงผลที่จะเกิดแก่คนรอบข้างด้วย
ผลเสียระยะสั้น เช่น หายใจไม่เต็มอิ่ม
ผลเสียระยะยาว เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง
ผลของควันบุหรี่มือสองต่อคนในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆในบ้านจะมีโอกาสติดเชื้อทางเดินหายใจมากขึ้น - Rewards :
การเน้นย้ำถึงผลดีที่ได้จากการเลิกสูบบุหรี่ โดยเฉพาะสิ่งดีๆที่ผู้ป่วยจะได้รับ เช่น บุคคลิกภาพที่ดูดีขึ้น เป็นแบบอย่างที่ดีต่อลูก ประหยัดค่าใช้จ่ายมีเงินเก็บมากขึ้น - Roadblock :
การกระตุ้นให้ผู้ป่วยระบุหาสาเหตุที่เป็นอุปสรรคต่อการเลิกสูบบุหรี่ พร้อมทั้งช่วยหาแนวทางแก้ไขร่วมกับผู้ป่วย เช่น เคยพยายามเลิกแล้วแต่ไม่สำเร็จเพราะไม่มีคนสนับสนุน กังวลเรื่องน้ำหนักตัว เป็นต้น - Repetition :
การติดตาม สอบถาม ทุกครั้งที่ได้พบผู้ป่วย ถึงความพร้อมในการตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่
สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : ผลกระทบต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่
5.Arrange :-
ขั้นตอนการติดตามผลการักษา ผู้ดูแลจะมีการนัดติดตามผลเป็นขั้นตอนดังนี้
– ครั้งแรกภายใน 2 สัปดาห์ จากนั้น 2-4 สัปดาห์ ใน 3 เดือนแรกของการรักษา
– จากนั้น จะนัดติดตาม 1-2 เดือน จนครบ 6 เดือน ของการรักษา
– และนัดติดตามอย่างห่างๆ จนกว่าจะครบ 1 ปี
ที่สำคัญมากคือ ผู้ดูแลจะมีการใช้เครื่องตรวจวัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในลมหายใจ หรือ การตรวจวัดระดับสารโคตินีนในปัสสาวะหรือน้ำลาย เพื่อยืนยันผลการรักษาว่าประสบความสำเร็จหรือไม่มากน้อยระดับไหน เพื่อปรับการวางแผนช่วยเหลือผู้ป่วยได้ถูกต้องเหมาะสมกับวิถีการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยแต่ละราย
โดยทั่วไป จะพบว่ามีลักษณะผู้ป่วยแบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้
- ผู้ป่วยที่ประสบความสำเร็จในการเลิกสูบบุหรี่
- ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ
- ผู้ป่วยที่กลับไปสูบบุหรี่ซ้ำใหม่
ซึ่งผู้ดูแลจะวางแนวทางการรักษาใหม่ ที่เหมาะสมในแต่ละกรณี
เทคนิค 5 D
การเสพติดนิโคตินเป็นอุปสรรคหลักในการเลิกสูบบุหรี่ อาการถอนนิโคตินที่เกิดขึ้น จะทำให้ผู้ป่วยกระสับกระส่าย รู้สึกไม่สบาย ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิในการทำงาน
ในขั้นตอนช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงเลิกสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดนี้ ผู้ดูแลจะสอนผู้ป่วยฝึกการใช้ แผนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ที่เรียกว่า เทคนิค 5D เมื่อมีความรู้สึกอยากสูบบุหรี่ ซึ่งเทคนิคนี้ใช้ไปจนถึงขั้นตอนติดตามผู้ป่วยที่มีการกลับไปสูบบุหรี่ซ้ำ
เทคนิค 5D คือ ข้อปฏิบัติเมื่อรู้สึกอยากสูบบุหรี่
- Delay : ให้หาวิธียืดหรือเลื่อนเวลาการสูบออกไปก่อน เช่น นับเลข 1-10 ,ล้างหน้า,แปรงฟัน บ้วนปาก,เคี้ยวผลไม้รสเปรี้ยว
2. Deep Breath : การหายใจเข้า-ออก ลึกๆและช้าๆ จำนวน 5-10 ครั้ง จะช่วยให้ผ่อนคลาย
3. Drink water : ดื่มน้ำช้าๆ จิบน้ำบ่อยๆ หรือ ล้างหน้าทันที เมื่อรู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวายใจ
4.Do something else : ทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ชอบหรือสนใจเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ ดูหนัง ฟังเพลง
5.Destination / Discuss : ให้คิดตระหนักถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือการพูดคุยกับคนที่ไว้วางใจ เพื่อสร้างกำลังใจ
สนใจอ่านเพิ่มเติมที่ : การบำบัดโรคเสพยาสูบ
สรุป
การรักษาโรคเสพยาสูบแบบไม่ใช้ยา ผู้ดูแลจะเปรียบเสมือนผู้จัดการช่วยชี้แนะให้ผู้ป่วยเข้าใจกลวิธีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเอาชนะอาการถอนนิโคติน ทำให้ผู้ป่วยเห็นทางออกที่ถูกต้อง เห็นผลได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องทนทุกข์ทรมานและเสียเวลาจากการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
การบริบาลทางเภสัชกรรม (Pharmaceutical care)
การบริบาลทางเภสัชกรรม หมายถึง ความรับผิดชอบของเภสัชกรโดยตรงที่มีต่อการใช้ยาของผู้ป่วย เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ถูกต้องตามที่ต้องการและเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ผลการรักษาที่ถูกต้องคือ
โดยเภสัชกรจะปฏิบัติงานร่วมกับบุคคลากรทางการแพทย์ทางสาธาณสุขอื่นๆ เรียกว่า ทีมสหสาขาวิชาชีพและมีหน้าที่หลักในการค้นหา แก้ไข และป้องกันปัญหาที่เกิดจากการใช้ยา ตลอดจนติดตามประเมินผลที่เกิดขึ้นจากการรักษาด้วยยา เพื่อให้เกิดระบบยาที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงสุด
สินค้าแนะนำ
fixomull
สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูกเด็กเล็ก
INNAQUA
เซรั่มแก้ผมร่วงฮีรูดอยด์
แผนที่ที่ตั้งร้าน
ร้านยาของเรา
วิวร้านกลางวัน
วิวภายในร้าน
วิวภายในร้าน
วิวภายในร้าน
เภสัชกรเหลียน
พนักงานผู้ช่วยนูรีดา
พันธมิตรของเรา
บริษัทยาที่เป็นพันธมิตรสนับสนุนเรา