หม้อนอน (หนัก 640,680 กรัม)

หม้อนอน Bed pan

– มี 2 แบบ แบบพลาสติก และ แบบสแตนเลส

ข้อบ่งใช้

• ใช้สำหรับรองรับการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะบนเตียง
• สามารถใช้ได้ทั้งหญิงและชาย
• ทนทาน ไม่แตกหักง่าย
• ทำความสะอาดง่าย

ขนาดหม้อนอนแบบพลาสติก

• ขนาดกว้าง x ยาว = 26 x 31 ซม.
• น้ำหนัก 0.20 กก.

ขนาดหม้อนอนกระดูกลิ้นสั้นสแตนเลส

• ขนาดกว้าง x ยาว x หนา = 24.5 x 32.5 x 7.5 ซม.

– การสอดหม้อนอนเป็นการช่วยเหลือ และจัดหาอุปกรณ์สำหรับรองรับการขับถ่ายบนเตียง ใช้ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถลุกเข้าห้องน้ำได้ อุปกรณ์ที่ใช้เรียกหม้อนอน (bedpan) มี 2 ชนิด คือ

1. ชนิดธรรมดา (regular bedpan) ผลิตจากโลหะหรือพลาสติกที่มีความแข็งแรง ขอบ
ด้านบนเป็นขอบมนจะเตี้ยกว่าขอบด้านล่าง มีความลึกประมาณ 2 นิ้ว

2. ชนิดที่ใช้สำหรับผู้ป่วยกระดูก (fracture pan) หม้อนอนชนิดที่ออกแบบมาสำหรับผู้ป่วย
กระดูกที่ใส่เฝือกที่ลำตัว ที่ขา หรือผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดห้ามอยู่ในท่านอนกึ่งนั่ง ผลิตจากโลหะหรือพลาสติกที่มีความแข็งแรง ขอบด้านบนมีลักษณะมนจะเตี้ยกว่าขอบด้านล่าง มีความลึกประมาณ 1/2 นิ้ว

– ก่อนนำหม้อนอนไปใช้กับผู้ป่วยต้องประเมิน เพื่อเลือกใช้หม้อนอนได้เหมาะสมเมื่อผู้ป่วยนั่งบนหม้อนอน ขอบด้านบนของหม้อนอนทั้ง 2 ชนิด นี้จะแนบกับบริเวณก้นกบ

วิธีปฏิบัติการสอดหม้อนอน

1. ล้างมือให้สะอาด เช็ดให้แห้ง สวมถุงมือ ป้องกันมือเปรอะเปื้อน

2. นำหม้อนอนไปที่เตียง หากหม้อนอนเย็นให้นำไป ผ่านน้ำอุ่นให้หม้อนอนหายเย็นแล้วเช็ดให้แห้ง

3. ให้ผู้ป่วยนอนตะแคงหันหลัง และงอเข่า เปิดผ้าที่คลุมตัวผู้ป่วยลงให้ขอบผ้าอยู่ใต้ก้น และสามารถสอดหม้อนอนเข้าได้โดยสะดวก (กรณีเข้าทางขวาของผู้ป่วย) วางมือซ้ายในลักษณะหงายมือไว้ที่บริเวณก้นกบ วางหม้อนอนซ้อนลงที่มือซ้าย โดยหันขอบบนให้หันไปทางด้านศีรษะผู้ป่วย

4. ให้ผู้ป่วยยกสะโพกและค่อย ๆ พลิกตัวนอนหงาย เลื่อนหม้อนอน ให้อยู่ใต้ก้น มือซ้ายเลื่อนออก ให้หม้อนอนอยู่ในระดับที่เหมาะสม

5. เลื่อนผ้าขึ้นมาคลุมปิดร่างกายผู้ป่วย

6. เมื่อผู้ป่วยถ่ายเสร็จเรียบร้อยให้ยกสะโพกขึ้น และ เลื่อนหม้อนอนออกมา
เลื่อนหม้อนอนออกมาได้โดยง่าย

8. ทำความสะอาดโดยเช็ดจากด้านหน้ามาด้านหลัง (จากบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกลงมาที่ทวารหนัก) ไม่เช็ดย้อนไปย้อนมา

9. นำหม้อนอนไปเก็บ ถอดถุงมือ ล้างมือให้สะอาด เช็ดให้แห้ง

การดูแลการขับถ่ายของผู้ป่วยติดเตียง

1. พยายามให้ผู้ป่วยถ่ายอุจจาระทุกวัน ถ้าเป็นไปได้

2. ดูแลให้ได้รับอาหารที่มีกากใย เช่น ผัก (ผักกาด, ผักคะน้า) ผลไม้ (มะละกอสุก, น้ำส้ม) เป็นต้น

3. ดูแลให้รับน้ำอย่างน้อย 2-2.5 ลิตร (ยกเว้นบางรายที่แพทย์จำกัดปริมาณน้ำ)

4. หากมีปัญหาท้องผูก ควรปรึกษาแพทย์ให้ยาระบายหรือยาเหน็บ ถ้าจำเป็นอาจพิจารณาสวนอุจจาระ เพราะหากมีปัญหาท้องผูกมากๆ ผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย ท้องอืด ไม่อยากอาหาร หรือคลื่นไส้ อาเจียน เพราะอาหารค้างอยู่ในลำไส้มาก ทำให้อ่อนเพลีย ไม่มีแรงได้

5. บางรายอาจพบปัญหาท้องเสีย จึงควรสังเกตการณ์ถ่ายอุจจาระ หากมีการถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง (ควรสังเกตสี จำนวน และลักษณะของอุจจาระ)

การล้างทวารหนัก

1.กรณีเป็นการเช็ดตัว หรือผู้ป่วยถ่ายบนเตียง ควรล้างทวารโดยการใช้หม้อนอนสำหรับถ่ายอุจจาระ และปัสสาวะ (Bed pan) บนเตียง หรือแผ่นรองซับ

2. ล้างชำระด้วยน้ำและสบู่

3. ล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วซับด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง